ติวสอบ IELTS
ปริญญาโท สาขาพัฒนศึกษา คณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
ปริญญาโท สาขาการสอนภาษาอังกฤษ คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง
ติวเตอร์ตัวพ่อ-ตัวแม่ จากทั่วทุกหนแห่งทั้งในและต่างประเทศ นำทัพโดยติวเตอร์และครูฝีมือการสอนระดับแนวหน้า พร้อมให้บริการทั่วไทย ไกลทั่วโลก ทั้งแบบสอนนอกสถานที่และแบบออนไลน์สอนสดตัวต่อตัว เรียนแบบไหนก็เก่งขึ้นชัวร์!
ติวเตอร์ขั้นเทพ กำลังทัพสำคัญที่พร้อมตะลุยการสอนเพื่อให้นักเรียนบรรลุวัตถุประสงค์การเรียนสูงสุด พร้อมรับทั้งการติวสอบกลางภาค ติวสอบปลายภาค ติวสอบเข้า สอนเนื้อหาหลักและเนื้อหาเสริม ปรับพื้นฐานทุกวิชา ติวแข่งขันทุกประเภท ทั้งแบบสอนนอกสถานที่และแบบออนไลน์สอนสดตัวต่อตัว
ผู้ปกครองและนักเรียนสามารถระบุเลือกคุณสมบัติของติวเตอร์ได้
ไม่ว่าจะเป็น มหาวิทยาลัยที่ติวเตอร์จบหรือกำลังศึกษาอยู่ ทั้งระดับชั้นปริญญาตรี ปริญญาโท และปริญญาเอก ระบุเพศ อายุ ประสบการณ์ หรือแม้แต่บุคคลิกาพของติวเตอร์ มั่นใจได้ว่าท่านจะได้ติวเตอร์ที่ตรงใจที่สุดค่ะ
ก่อนอื่น เรามาทำความรู้จักกับ IELTS กันก่อนนะคะ
IELTS หรือ The International English Language Testing System คือการทดสอบภาษาอังกฤษเพื่อใช้สำหรับศึกษาต่อในประเทศอังกฤษ ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ แคนาดา สหรัฐอเมริกา หรือใช้สำหรับการสมัครงานในองค์กรหรือบริษัทที่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาหลักในการสื่อสาร สำหรับการทดสอบนั้น จะมีการทดสอบทักษะทั้ง 4 ด้านเลยค่ะ คือ ฟัง พูด อ่าน เขียน ซึ่งจะแบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ การสอบเชิงวิชาการ (Academic modules) และการสอนเชิงฝึกอบรมทั่วไป (General Training) สำหรับผู้ที่ต้องการนำผลสอบไปใช้เพื่อศึกษาต่อควรเลือกสอบประเภทเชิงวิชาการ (Academic modules)
รายละเอียดของข้อสอบ
- ทักษะการฟัง: ใช้เวลาประมาณ 30 นาที ข้อสอบจะให้ฟังเนื้อเรื่องสนทนาและบทพูดโดยใช้สำเนียงที่หลากหลาย โดยที่จะได้ฟังแค่รอบเดียว แต่จะมีช่วงเวลาให้อ่านคำถามและเขียนคำตอบ
- ทักษะการอ่าน: ใช้เวลา 60 นาที เนื้อหาของข้อสอบจะเกี่ยวกับชีวิตประจำวันที่เป็นสถานการณ์ในต่างประเทศ อาจจะนำมาจากหนังสือพิมพ์หรือบทความต่างๆ ซึ่งข้อสอบส่วนนี้จะทดสอบความสามารถในการทำความเข้าใจและการใช้ข้อมูลต่างๆ
- ทักษะการเขียน: ใช้เวลา 60 นาที ข้อสอบจะแบ่งออกเป็น 2 ส่วน ส่วนแรกจะเป็นการเขียนจดหมาย ความยาวประมาณ 150 คำ โดยเนื้อหาจะเกี่ยวกับการสอบถามข้อมูลหรือการอธิบายสถานการณ์ต่างๆ ส่วนหลังจะเป็นการเขียนเรียงความ ความยาวประมาณ 250 คำ เพื่อแสดงความคิดเห็นในเรื่องต่างๆตามโจทย์ที่ให้มา
- ทักษะการพูด: ใช้เวลาประมาณ 11-14 นาที เป็นการสอบสัมภาษณ์ตัวต่อตัว เพื่อตอบคำถามสั้นๆ หัวข้อจะเป็นเรื่องราวที่คุ้นเคย
ผลคะแนนแบ่งออกเป็น 9 ระดับ คือ
ระดับ 9 มีความสามารถในการใช้ภาษาดีเลิศ คือสามารถใช้ภาษาได้อย่างคล่องแคล่ว เหมาะสม มีความเข้าใจดีเยี่ยม
ระดับ 8 มีความสามารถในการใช้ภาษาดีมาก คือสามารถใช้ภาษาได้อย่างคล่องแคล่ว แต่อาจมีข้อผิดพลาดบ้างเล็กน้อยในสถานการณ์ทีี่ไม่คุ้นเคย
ระดับ 7 มีความสามารถในการใช้ภาษาดี คือ สามารถใช้ภาษาได้ดีแต่ยังมีความผิดพลาดและเข้าใจผิดในบางครั้ง แต่สามารถใช้ภาษาในลักษณะที่ซับซ้อนได้ดี
ระดับ 6 มีความสามรถในระดับใช้งานได้ คือ มีความสามารถในการใช้ภาษาได้อย่างมีประสิทธิภาพ มีข้อผิดพลาดบ้างและมีความไม่เหมาะสมในการใช้ภาษาบ้าง แต่สามารถสื่อสารและเข้าใจภาษาที่ซับซ้อนได้
ระดับ 5 มีความสามารถในการใช้ภาษาระดับปานกลาง คือมีความสามารถในการใช้ภาษาได้บางส่วนและเข้าใจความหมายกว้างในสถานการณ์ส่วนใหญ่ แต่ยังมีความผิดพลาดบ่อยๆแต่ก็สามารถสื่อสารได้ในระดับพื้นฐาน
ระดับ 4 มีความสามารถในการสื่อสารจำกัด คือมีความสามารถในการสื่อสารจำกัดเฉพาะเรื่องที่ตนเองคุ้นเคย มีปัญหาในการสื่อสาร ความเข้าใจและการแสดงออกความคิดเห็น ไม่สามารถใช้ภาษาที่ซับซ้อนได้
ระดับ 3 มีความสามารถในการใช้ภาษาที่จำกัดมาก คือรู้และเข้าใจความหมายกว้างๆ ในสถานการณ์ที่คุ้นเคยและมีการหยุดชะงักในการสื่อสารบ่อยๆ
ระดับ 2 ไม่สามารถสื่อสารคำศัพท์ขั้นพื้นฐานได้ คือไม่สามารถสื่อสารเป็นเรื่องราวได้ พูดได้เฉพาะคำสั้นๆ มีปัญหาในการเข้าใจทั้งภาษาพูดและภาษาเขียน
ระดับ 1 ใช้ภาษาไม่ได้เลย คือ ไม่สามารถใช้ภาษาได้นอกจากคำศัพท์เพียงเล็กน้อยเท่านั้น
ทีนี้เรามาดูเทคนิคการทำข้อสอบ IELTS กันสักนิดค่ะ
จัดการกับข้อสอบอ่าน
การฝึกฝนการใช้คำที่มีความหมายเหมือนสำคัญมากในข้อสอบส่วนนี้ รวมถึงคำประเภทที่ใช้สรุปความ เพื่อจะช่วยให้เรารู้ว่าข้อมูลที่เราหาอยู่ไหน อยู่ตรงไหนของเนื้อเรื่องที่อ่าน เวลาทำข้อสอบส่วนนี้ ถ้าเป็นประเภทคำถามสั้นๆ ประเภทเติมคำในประโยคให้สมบูรณ์ และประเภทเติมคำในบทสรุป คำตอบนั้นจะต้องถูกหลักไวยากรณ์ด้วย รวมไปถึงการสะกดคำ ซึ่งข้อสอบส่วนนี้บางข้อเราอาจลอกมาจากเนื้อเรื่องที่ให้อ่าน เพราะฉะนั้นระวังอย่าลอกมาผิด ไม่งั้นจะเสียคะแนนไปอย่างน่าเสียดาย
จัดการกับข้อสอบเขียน
พาร์ทเขียน น่าจะพาร์ทปราบเซียนสำหรับน้องๆหลายคน ยิ่งน้องๆที่เรียนระบบอินเตอร์มา มักจะมีปัญหากับการเขียนให้ถูกต้องตามหลักไวยากรณ์ บางคนสอบหลายรอบก็ไม่สามารถทำคะแนนในพาร์ทนี้ได้ตามเป้าหมาย อย่างที่กล่าวไปตอนต้นคือ พาร์ทเขียนนั้นจะแบ่งออกเป็น 2 task
task 1 เป็นการเขียนอธิบายข้อมูล (กราฟเส้น, กราฟแท่ง, รูปภาพ, ตาราง) ประมาณ 150 คำ หลักการเขียนก็ปรกติค่ะ คือต้องมี Introduction, Body และ Conclusion เวลาเขียนให้เน้นเนื้อหาหลัก ข้อมูลในส่วน task1 ต้องครบถ้วน อย่าให้ขาดหาย ศึกษาคำศัพท์ที่ใช้ในการเขียน task1 ไปให้ดี เช่น to rise, to increase, to drop, to fall, to vary, to stabilize เป็นต้น
task 2 คือการเขียนเรียงความตามหัวข้อที่กำหนดให้ เป็นลักษณะของการแสดงความคิดเห็น ประมาณ 250 คำ สัดส่วนคะแนน task นี้จะสูงกว่า ควรใช้เวลาในการทำพาร์ทนี้สัก 45 นาที โดยเริ่มทำก่อน task แรกค่ะ มีเวลาเหลือ 15 นาทีค่อยไปทำ task 1 โครงสร้างของการเขียน task2 ยังคงเดิม Introduction, Body และ Conclusion แต่ task นี้สิ่งที่สำคัญที่ลืมไม่ได้คือ เมื่อเราเสนอความคิดเห็นของเราออกไป ทุกๆความคิดเห็น ต้องมีประโยคมาสนับสนุนไอเดียของเรา จะเขียนลอยๆไม่ได้ ทุกไอเดียของเราต้องมีน้ำหนัก รวมถึงการใช้ภาษาหรือศัพท์ที่หลากหลาย การใช้ศัพท์ซ้ำๆ บ่อยๆ ถือว่าคลังศัพท์เราไม่มากพอ และจะทำให้งานเขียนของเราน่าเบื่อ สุดท้าย ไวยากรณ์ค่ะ จะตกม้าตายกันก็ส่วนนี้ เราอาจจะต้องฝึกเขียนบ่อยๆ แล้วให้คนที่มีความรู้ด้านภาษาเป็นอย่างดี ตรวจให้เรา แก้ไข และอธิบายให้เราฟัง ทำซ้ำๆ ไวยากรณ์ของเราก็จะดีขึ้นค่ะ ไม่เหมือนการไปอ่านตำราไวยากรณ์ อ่านไปกี่รอบก็จำไม่ได้ ถ้าไม่ลงมือปฏิบัติ
จัดการกับข้อสอบฟัง
ทักษะการฟังถือเป็นทักษะส่วนบุคคล จะฟังให้เก่ง ก็ต้องฝึกฟังให้มาก ในการทำข้อสอบส่วนนี้ให้รอจำกว่าช่วงท้ายของการสอบ แล้วค่อยลอกคำตอบลง โดยจะมีเวลาในการทำข้อสอบ 10 นาที ซึ่งถือว่ามีเวลาให้พอสมควรเลยทีเดียว ข้อสอบส่วนนี้แบ่งเป็น 4 พาร์ท 1. การกรอกแบบฟอร์มต่างๆ 2. มีรูปภาพมาเกี่ยวข้องด้วย 3. การสนทนาของคนสองคน ส่วนใหญ่เกี่ยวกับการศึกษา 4. ฟังอาจารย์บรรยายในชั้นเรียนระดับมหาวิทยาลัยและจดเลคเชอร์ แต่จะเป็นการกรอกคำตอบ หรืออาจมีกากบาทปนมาบ้างเล็กน้อย การเขียนคำตอบ อย่าไปดัดแปลงคำตอบที่เราได้ยิน เราได้ยินมาอย่างไรก็ให้เขียนตอบไปแบบนั้น เวลาตอบ อย่าลอกเอาคำที่เห็นอยู่ในกระดาษคำถามมาด้วย เราต้องตอบจากที่เราได้ยินเท่านั้น
จัดการกับข้อสอบพูด
ข้อสอบส่วนนี้จะมี 3 พาร์ทค่ะ 1, เป็นคำถามเกี่ยวกับชีวิตประจำวันทั่วไป 2. จะมีการ์ดหัวข้อมาให้เราพูดตามหัวข้อนั้นๆ ใช้เวลาแค่ 1-2 นาที 3. เป็นการสนทนาที่เกี่ยวเนื่องมากจากพาร์ทที่2 กับผู้สอบ ทั้งหมดรวมใช้เวลาประมาณ 15 นาที ในการตอบคำถามพาร์ทนี้ เวลาโดยคำถาม yes-no question อย่าตอบเพียง yes หรือ no นะคะ เราจะต้องขยายความด้วย อย่าลืมว่าเขากำลังวัดความสามารถทางภาษาเราอยู่นะคะ แล้วอย่าไปท่องจำคำตอบมาสอบนะคะ เวลาท่องมาเค้ารู้ค่ะ เพราะมันขาดความเป็นธรรมชาติ ที่ไม่น่าเสียคะแนนคือ ไวยากรณ์เล็กๆน้อยๆ การออกเสียง s, es การออกเสียง ed เป็นต้น การพูดแสดงความคิดเห็นของเรานั้น ไม่ควรจะสั้นเกินไป แบ่งความคิดออกเป็นข้อๆ จะช่วยให้น้องๆไม่ประหม่าและเรียงลำดับมันได้ดีขึ้น ไม่พูดวกไปวนมา